ค้นหาข้อมูลทั่วโลก

วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2555

อยู่ที่ใจ..



อยู่ที่ใจ..ใช่ใครมากำหนด
ใจกบฏไม่ไว้ใจ..ใช่ใครเขา
โง่งมงาย..ร้ายดีที่ใจเรา
ใจโศกเศร้า..อย่าโทษเขา...ใจเราเอง
ใจเป็นใหญ่ มีใจ เป็นหัวหน้า
ใจเลวช้าชั่วดี ใจข่มเหง
ใจคือนาย กายคือบ่าว ต้องย่ำเกรง
ใจนักเลง..ใจต้นต่อ ตัวก่อกรรม
อย่ามัวโทษ..โกรธใคร..ทำใจหลง
สิ่งยุยงคือกิเลสเหตุใจช้ำ
ใจคิดชั่ว มักพูดชั่ว ตัวกระทำ
ผลตอกย้ำดังล้อเกวียนเฆี่ยนเท้าโค..
<จักรัฐิเมธ>

วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ความตายไม่ใช่จุดจบของปัญหา


   หากคิดว่าความตายคือบทสรุปของชีวิตที่ไม่มีทางออก..มันจะโหดร้ายไปไหมที่จะเพิ่มความทุกข์ให้แก่คนที่เรารักและรักเรา และจิตวิญญาณที่บอบช้ำที่ยังไม่พร้อมกับภพภูมิใหม่..และโอกาสที่จะได้กลับมา..เมื่อครั้งหนึ่งเคยมีโอกาสแต่ทำไม่ได้..ต้องรออีกกี่ภพกี่ชาติ..
   ความตายจึงไม่ใช่จุดจบของปัญหา..แต่เป็นการเพิ่มปัญหาให้กับจิตวิญญาณที่จะต้องดิ้นรนแสวงหาโอกาสอีกครั้ง..ซึ่งมันยากมากเป็นร้อยเท่าหากคุณคิดสั้นฆ่าตัวตาย...จงมองอนาคตและปัจจุบัน หัดยอมรับความจริงและการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น ละทิ้งอดีตที่สูญเสียไป ลองเริ่มใหม่ด้วยสติ และเข้าใจโลกความเป็นจริงให้มากขึ้น...ใช้ชีวิตอย่างมีค่า สมกับชีวิตที่ได้มา เมื่อรู้ว่าสักวันหนึ่งต้องแก่ ต้องเจ็บและจะต้องตายในที่สุด ก็จงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของธรรมชาติภาวะที่จะตัดสิน เราเพียงแค่เติมเต็มคุณค่าให้ชีวิต + ความดี และเกียรติยศที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ มันสุดแสนจะวิเศษแล้ว เกิดมามีอะไร ตายแล้วเป็นไฉน เทียบกับใจอันสว่างจ้า ส่องทั่วพสุธาแดนดิน....(คำอุทานจุนเป่า น้องชายเป้าปุ่นจิ่น)

<จักรัฐิเมธ>

วันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เมื่อความรักคือดอกไม้


เพราะรักใหม่ดอกไม้จึงเบ่งบาน

เพราะหักรานรักดอกไม้จึงเหี่ยวเฉา

เพราะหมดรักดอกไม้จึงกลายเน่า

เพราะรักเก่าหมดเหยื่อใยดอกไม้โรย..

<จักรัฐิเมธ>




วันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

น้ำตาลูกผู้ชายฆ่าได้หยามไม่ได้


...จะหลั่งน้ำตาอาลัย..แด่คนรัก

จะพิทักษ์ปกป้องคุณธรรม

ยอมเจ็บได้ตายแทนหากเพี้ยงพร้ำ

หัวใจยอมให้เหยียบย้ำนั้นอย่าหวัง....

<จักรัฐิเมธ>

วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เจ้ายุทธภพ


ยุทธภพครบเครื่องเรื่องเลวร้าย
ศัตรูหมายจ้องโคนล้มอำนาจ
ตำแหน่งเจ้ายุทธภพใครบังอาจ
จะฟันฟาดด้วยกระบี่คุณธรรม
กระบี่หนึ่งตรึงไว้กับใจเดี่ยว
ทั้งปราดเปรียวว่องไวท่าเลิศล้ำ
มารผจญช่วงชิงไม่เพี้ยงพร้ำ
จะกระหน่ำธรรมกระบี่ขยี้วิญญาณ...


<จักรัฐิเมธ>

ใครกันแน่ที่โง่..



เรื่องสั้น
เด็กน้อยกับตาแก่...ต่างคนต่างร้องให้เสียใจมาเจอกัน
เด็กน้อยร้องให้เพราะอยากได้พระจันทร์และพระอาทิตย์มาทำเป็นล้อและเพลารถ
ส่วนตาแก่ร้องให้เสียใจเพราะเสียดายลูกรักที่จากไป..
เด็กน้อย..
รถพิเศษวิจิตรแบบแบนสวรรค์
ล้อดวงจันทร์คู่อาทิตย์ทั้งหน้าหลัง
พวงมาลัยทำจากโลกเบาะจันทร์นั่ง
ที่พอหวังสักคัน..ไม่ฝันเพ้อ..
ตาแก่..

เด็กเอ๋ยเด็กน้อย...ช่างด้อยไร้เดียงสา
จะร้องหาล้อจันทราน่าเพ้อเจ้อ
ช่างโง่เขลาเพลาสุริยันฝันละเมอ
จะพบเจอ..ก็คงแค่แต่ในฝัน....
เด็กน้อย..

สิ่งที่ขอพอมองเห็น..เป็นจริงอยู่
แต่สิ่งผู้คร่ำครวญหาสังขารขันธ์
แม้พลัดพรากจากกันแล้วยังโหยหัน
ช่างโง่งันจริงแท้..คนแก่เอ๋ย..

<จักรัฐิเมธ>



วันพฤหัสบดีที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ผู้ไม่เคยโกหก




มีสัจจะความจริงทุกสิ่งล้วน
ทุกกระบวนแจ้งเบาะแสแก้สงสัย
ประกาศแจ้งแทงตลอดหากเข้าใจ
จะหาใครรู้ทันว่านั่นจริง..
ธรรมชาติไม่เคยจะโกหก
สอนหยิบหยกไว้ในสรรพสิ่ง
ทั้งสงบพิโรธไม่ไหวติง
เพียงอยากบอกความจริงสัจจธรรม..
<จักรัฐิเมธ>

วันอังคารที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ระเบียบทำให้งาม


ดอกไม้งามหลากสีสันพรรณต่างที่      
 ระเบียบดีจัดแจงแต่งยิ่งสวย
ดอกไม่งามพลอยเด่นช่วยอำนวย       
 ส่งงามด้วยเพราะระเบียบเรียบร้อยดี
คนที่งามตามระเบียบเพรียบพร้อมพรั่ง  
ศีลเปล่งปรั่งประดับใจไม่หมองศรี
ส่งความงามเกินกว่าค่าอัญมณี            
งามคงที่ไม่เปลี่ยนแปลงแห้งร่วงโรย..
<จักรัฐิเมธ>


วันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2555

วันคืนล่วงไป ล่วงไป


วันคืนล่วงไป..ไม่อาจย้อน
ชีวิตนอนหลับไหลในความฝัน
ไม่อาจเก็บเกี่ยวผลจากคืนวัน
กาลแสนสั้นจะสูญเปล่าประโยชน์ตน
พึงรำพึงถึงวันนี้ที่มีอยู่
คุณความรู้คู่ธรรมนำฝึกฝน
เร่งทำดี มีวิชา แก้อับจน
คุณค่าคน..ไม่สูญหาย..ได้เกิดมาฯ

<จักรัฐิเมธ>


วันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ตั้งความกล้าฝ่าความกลัว


เพราะความกล้าฆ่าความกลัวจึงแกล้วกล้า
ใช่เพราะกล้วจนบ้าไม่กล้าหาญ
กล้าไม่กลัว กลัวไม่กล้า สร้างตำนาน
โลกเล่าขาน เพราะความกล้าฆ่าความกลัว
จะผ่านถ้ำอุโมงมืดกลัวไม่กล้า
ศัตรูมาไล่หลังหวังสลัว
มัวแต่กลัวความมืดแสนมืดมัว
ภัยถึงตัวเพราะกลัวเกินให้เนิ่นนาน..
<จักรัฐิเมธ>


มองโลก..อย่างไอน์สไตน์ ให้มี 3 มิติเสมอ


จะลุ่มลึกซับซ้อนย้อนวงกต
ล้วนทั้งหมดเรียบง่ายคล้ายแอบแฝง
ที่ขัดแย้งแตกต่างอย่างรุนแรง
พร้อมเปลี่ยนแปลงเอกภาพระนาบกัน
ที่ทุกข์ยากมากปัญหาอุปสรรค
ทั้งหน่วงหนักขวากหนามภัยมหันต์
ยังมีช่องโอกาสใหม่คอยแบ่งปัน
คงสักวันหากไม่ท้อรอเปลี่ยนแปลง
<จักรัฐิเมธ>


วันศุกร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2555

ทำไม่..ถึงต่างกัน


คืนกับวันต่างกันที่เวลา
ดินกับฟ้าต่างกันที่อยู่ห่าง
ตะวันกับจันทร์ต่างกันที่โคจรทาง
หยินกับหยางต่างกันที่พลัง
ถึงจะต่างห่างกันสักแค่ไหน
กาลหมุนไปเปลี่ยนคืนวันไม่หยุดยั้ง
แต่มีช่วงบรรจบพบสักครั้ง
เพื่อเหนี่ยวรั้ง..พบพรากแล้วจากกัน..
<จักรัฐิเมธ>


ปาก..เสีย

ลมพิษร้ายที่ว่าแรงยังพอแก้
แต่ยอมแพ้ลมพิษปากยากรักษา
หอกแหลมคมทิ่มเป็นแผลแก้ด้วยยา
หอกวาจาทิ่มแทงใจให้ทุกข์ทน..
ปรุงอาหารด้วยเครื่องปรุงให้อร่อย
ใส่เครื่องปรุงเป็นร้อยรสเข้มข้น
จะเซิร์ฟทีวจีเผ็ดเข็ดคำคน
แม่ครัวโยนให้กินสิ้นรสชาติ
<จักรัฐิเมธ>


ความรู้ ไม่สู้จินตนาการ


จินตนาการมีค่าเหนือความรู้
ไหลพรั่งพรูสร้างความคิดโลกเสมือน
เป็นภาพศิลป์จินตนาการไม่เลอะเลือน
ความรู้เกลื่อนไม่เหลือเชื่อเหนือจินตนาการ
จะเรียนรู้แค่ครูสอนวอนท่องบ่น
จำไปค้นคว้าหาตำราสาร
ไม่คิดค้นวิเคราะห์คงป่วยการ
ยิ่งเรียนนานยิ่งโง่เขลาเปล่าท่องจำ..

<จักรัฐิเมธ>

วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2555

ไฟภายใน..สู่ยุคมิคสัญญี


ไฟสงครามเริ่มก่อเชื้อที่ความคิด
วิปริตผิดวิสัยใจหยาบช้า
ไม่รับรู้เหตุผลพ้นเมตตา
มุ่งเข่นฆ่าเผาผลาญหารชีวิน
ไฟประทุเผาจิตติดเปลวเพลิง
หลงละเลิงสวยงามตามถวิล
โลภโกรธหลงดึงดิ่งจมมลทิน
ปฐพินอาบเลือดนองร้องคร่ำครวญ
สืบทายาทอสูรร้ายอุดมการณ์
มุ่งประหารดื่มเลือดเชือดโหยหวน
ยุคไร้ศีลกลิ่นคาวเลือดน่ารัญจวน
อสูรล้วนอำมหิตจิตต่ำทราม
ไม่รู้คุณรู้โทษโกรธเกรียวกราด
บ้าอำนาจเหนือเหตุผลไม่สนห้าม
ใครขัดขวางฆ่าทิ้งยิงประณาม
มาตุคามถูกเหยียดหยามไร้ปรานี
ภัยน่ากลัวที่แท้เกิดแต่จิต
วิปริตจากธรรมชินศรี
หากไม่ห้ามยับยั้งอเวจี
มิคสัญญียุคเถื่อนเกลื่อนทั่วโลก...
<จักรัฐิเมธ>


วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2555

ขอแค่ใจอึดฮึดสู้


เหนื่อยแค่ไหนขอแค่ใจได้พักผ่อน
ที่เร้าร้อนแค่ไหนขอแค่ใจได้อาบน้ำ
ถึงเหน็บหนาวแค่ไหนขอแค่ใจไม่หนาวตาม
ทุกข์หนักห้ามแค่ไหนขอแค่ใจรู้ปล่อยวาง
ถึงเศร้าโศกแค่ไหนขอแค่ใจไม่ร้องห่ม
รักระทมแค่ไหนขอแค่ใจไม่อ้างว้าง
ถึงจะเจ็บสักแค่ไหนขอแค่ใจไม่ครวญคราง
ถึงจะแพ้หกล้มบ้างขอแค่ใจอึดฮึดสู้.....
<จักรัฐิเมธ>


วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555

นิ่งสงบ..เพื่อสยบมาร



จงสยบความกลัวด้วยความกล้า
จงสยบความบ้าด้วยสติมั่น
จงสยบคนรักด้วยผูกพัน
เกื้อหนุนกันแบ่งปันใจให้เวลา
จงสยบความชั่วด้วยความดี
จงสยบไพรีด้วยอหิงสา
จงสยบความโกรธด้วยเมตตา
จงสยบอวิชชาด้วยปัญญาญาณ.
จงสงบสยบมารด้วยความนิ่ง
สรรพสิ่งหยุดไวติงในสงสาร
จงสยบจองเวรด้วยอภัยทาน
จงสยบอหังการด้วยปล่อยวาง
<จักรัฐิเมธ>


ลิขิตชีวิต..ดัง Steve Jobs



จงหิวและกระหายในความรู้
จงเพ่งดูถูกตัวเองว่าโง่เขลา
จงยอมรับทุกศาสตร์เช่นตัวเรา
จงสร้างเสาอนุสาวรีย์ให้ตัวเอง
จงมองโลกครบมิติก่อนลิขิต
จงมองชีวิตเป็นมิตรไม่ข่มเหง
จงมองธรรมชาติเป็นครูน่ายำเกรง
จงมองเพลงคีตศิลป์ด้วยจินตนาการ
จงเลือกทางลำบากยากไว้ก่อน
จงสังวรระวังในสังขาร
จงกตัญญูรู้คุณครูอาจารย์
จงกล้าหาญยามต้องการวีรชน..
<จักรัฐิเมธ>

วันอาทิตย์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2555

หนาวจังเลย..


อบอุ่นกายแค่ไหน..ใจยังหนาว
ร้อนอบอ้าวแค่ไหน..ใจยังหวิว
หนาวแค่กายภายนอกแค่พื้นผิว
หนาวสยิวผิวหัวใจ..ใครจะทน..
หนาวสุดขั้วหัวใจ....ลบล้านองศา
หนาวไม่ธรรมดา...จนสับสน
หัวใจแข็งด้านชา...เต้นวกวน
หนาวพิกล...เหน็บหนาวนาน..พิการใจ..
หนาวสนิมเกาะกินใจยิ่งเหน็บหนาว
หนาวปวดร้าวรักหักราญร่ำร้องให้
หนาวกี่หนาวที่ผ่านมาและผ่านไป
หนาวแค่ไหน....ยังไม่มีผ้ากันหนาว
หนาวไม่พอ...พายุหนาวลมหิมะ
ไม่ลดละ..ยิ่งรุนแรงจนซีดขาว
สั่นสะท้าน..ใจสะเทือนหนาวยืดยาว
ยิ่งหน่วงหนาวร้าวระทมข่มขืนใจ
หนาวฤดูยังมีเปลี่ยนเวียนผันผ่าน
หนาวตามกาลไม่นานเนิ่นฤดูใหม่
หนาวใจนี้ไม่มีเปลี่ยนฤดูใด
ยังคงไว้ฤดูหนาวเฝ้ารุกราน
จะดับหนาวให้สนิท..ปิดฤดู
ยังไม่รู้....วิธีที่อาจหาญ
จะต่อกรหนาวนี้…ชนะมาร
อภัยทาน..พออุ่นใจ..ให้คลายหนาว..
<จักรัฐิเมธ>


ความจริงจากฟ้า..หน้าฝน

หยดน้ำไหลริน..จากถิ่นแดนฟ้า
แปดเปื้อนพสุธา..ดังน้ำตาวาริน
ฟังเสียงสะอื้น..ค่ำคืนแว่วผ่านได้ยิน
จากหัวใจแปดเปื้อนมลทิน..หลั่งสายวารินน้ำตา...
ฟ้าร้องคร่ำครวญ..เหมือนจวนจะอำลา
หนึ่งหัวใจโศกเศร้าโศกา...ดังสายฟ้าฟาดแทบขาดใจ
โอ้อกฟ้า....   ....บอกพสุธาแทบแตกบรรลัย
ใครหนอช่างใจร้าย.ทำได้ ...ขอได้ไหมได้โปรดปรานี
แต่ความจริงหัวใจฟ้า    ยอมสละน้ำตาวารี
เพื่อหล่อเลี้ยงชุบชีวี     มอบไมตรีเมตตาการุณ
หยดน้ำตาสุดท้ายแทนใจ  ยอมสละอาลัยไม่ให้ช้ำในเคืองขุ่น
ดังน้ำตาฟ้าเพื่อพสุธาแทนคุณ  ต่างเกื้อหนุนสร้างฟ้าใหม่ในยามฝนพรำ..

<จักรัฐิเมธ>


นักไม่มีขน คนไม่มีความรู้ ขึ้นสู่ที่สูงไม่ได้



 (นกไม่มีขน คนไม่มีความรู้..ขึ้นสู่ที่สูงไม่ได้)
..นกน้อยไม่หัดบิน..จะบินได้อย่างไร
ขยับปีกไม่ไหว......เมื่อใจขี้เกียจบิน
ต้องทนอยู่กับรัง  .... เอาแต่นั่งร้องขอกิน
คอยแต่แม่เลี้ยงชีวิน......คงจบสิ้นซึ่งเผ่าพันธุ์
..เด็กเอยเด็กน้อย    เจ้ายังด้อย..เร่งขยัน
ควรศึกษากวดขัน.....ให้มั่นทำแต่ความดี
ใช่แต่เอาแต่กินนอน...ชอบวิงวอนปรานี
เกียจคร้านทำหน้าที่ ..พ่อแม่มีก็ทุกข์ใจ
..เป็นนกที่มีปีก.. ...รู้หลบหลีกเภทภัย
รู้โลกกว้างเป็นเช่นไร   เพราะหัวใจรักการบิน
เป็นคนอย่าเกียจคร้าน  มั่นทำงานหากิน..
ปีกความรู้ไม่สิ้น   ....หากถวิลใฝ่ศึกษา.....  
<จักรัฐิเมธ>

วันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ชีวิตนี้..แค่ขอนไม้


ขอนไม้ใบร่วงหล่นเหลือขอน
แน่นิ่งนอนซบดินสิ้นชื่อไม้
หมู่ปลวกเซาะไซซากลากไถ
กระเถาะเลาะเปลือกกินหมดสิ้นซากขอน
ชีพจรชีวินสิ้นสลาย

เรือนร่างกายมีค่าแค่หมู่หนอน
ดังไม้ขอนเน่าผุพังพึงสังวร
อุทาหรณ์แค่ขอนไม้..เมื่อตายลง
<จักรัฐิเมธ>

วันอังคารที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เขาคือ..ใคร ที่ยิ่งใหญ่เสมอ


ใครคือเขา..ทำให้เรารัก
เขาสมัคร..รักเราเมื่อตอนไหน
เขาอุทิศทุ่มเททั้งกายใจ..
หวังเพียงให้เราเติมใหญ่เป็นคนดี
เขาผู้พลีชีวี..ยอมสละ
เขาชนะใจเรา..สมศักดิ์ศรี
เขาคือยอดคนบุพพการี
เขาผู้มี..พรหมวิหารธรรม
เขาคือพระเจ้าผู้ให้กำเนิด
เขาคือผู้ประเสริฐที่เลิศล้ำ
เขาคือวีระสตรีชั้นผู้นำ
เขาคือยอดแห่งคำ..เอ่ยว่า “แม่”
<จักรัฐิเมธ>




วันเสาร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555


พรรษากาลสมัยให้ละเลิก
ใจบุกเบิกความดีมีทานศีล
ภาวนาบ่มนิสัยล้างมลทิน
เลิกเที่ยวกินละเล่นเว้นอบายฯ
พึ่งตั้งใจตั้งมั่น..ในคำสัตย์

จะเข้าวัดทำทานกาลมุ่งหมาย
รักษาศีลภาวนาบ่มใจกาย
ตลอดสายไม่ย่อหย่อนผ่อนกำลัง
สิ่งใดชั่วไม่ดี..หนีให้ห่าง

รู้ปล่อยวางอดีตไว้เบื้องหลัง
หยุดอนาคตความคิดไม่จีรัง
ระลึกหยั่งปัจจุบันมั่นความดี
ที่เคยเลวเหลวไหล ให้ไหลผ่าน
ดั่งสายธารสายใหม่ไม่หมองศรี
เริ่มที่ตัวกายจิตและวจี
พรรษาปีพุทธชยันตี.ทำดีเอย...
(จักรัฐิเมธ)


วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เพิ่มพลัง..ลมปราณแห่งจิตวิญญาณ


เมื่ออ่อนล้าเหนื่อยใจไฟริบหรี่
จากคนที่เข้มแข็งแรงหดหาย
โปรดหลับตาหันหลังมาสงบกาย
จะแผ่สายพลังใจไฟลมปราณ
จะกระตุ้นชีพจรใฟร้อนรุ่ม
เติมเชื้อหนุ่มสาวห้าวกล้าหาญ
จะฉีดสารเอ็นโดฟินส์สุขแผ่ซ่าน
ลบร่องรอยเหี่ยวยานเบ่งบานวัย
จะถ่ายทอดวิทยายุทธสุดลึกล้ำ

ไม่ต้องจำปล่อยวางสว่างไสว
ไม่ต้องยึด ไม่ต้องติด ถือสิ่งใด
ว่างเปล่าใน..สันติ..ที่จิตเดียว...

<จักรัฐิเมธ>



วันศุกร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

how to stop anger. หยุดความโกรธ


สายตาเหี้ยมโหด..เหมือนพึ่งโกรธใครมา
จนไม่กล้าสบตา...ดูใบหน้าช่างหม่นหมอง
โปรดหลับตา..แผ่เมตตาให้สัตว์ทั้งผอง
อย่าได้ขัดข้อง...ป้องร้ายมุ่งหมายเบียดเบียน
ให้มีความสุข..ปราศจากทุกข์โรคภัยคุกคาม
มีแต่สุขทุกชั่วยาม..งดงามด้วยธรรมนำเทียน
อย่าได้ก่อเวร สร้างกรรมทำเลว.ผิดเพี้ยน
หยุดอาอาฆาตเบียดเบียน..แล้วสงบใจในภาวนา...
รำลึกในจิต..อย่าได้ติดนิวรณ์
ทุกชีวิตต้องจากจร...พลัดพรากเป็นธรรมดา
มีรักพรากรัก ไม่จีรังอยู่ทุกเวลา
ค่อย ๆ พิจารณา...แผ่เมตตากำหนดออกไป
เมื่อปัญญาพิจารณากำหนดรู้จริง
ทุกสรรพสิ่ง...จริงหรือเท็จเป็นไฉน
สุดท้าย..ไม่มีเขาไม่มีเรา..ปล่อยวางจากใจ
ความโกรธหายไป...แล้วค่อย ๆ ลืมตา....
<จักรัฐิเมธ>


วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เลือกเป็นคนดี..ดีกว่า


จะคิดทำดีไม่ต้องกลัวไม่ได้ดี
สักวันต้องมีผลดีกลับมาตอบแทน
อย่าคิดทำชั่วหลอกตัวว่าเป็นแมน
ชีวิตจะแร้นแค้นผลตอบแทนที่.ตัวทำ
คนดี..มักทำดี พูดดี คิดดี
จะทำทั้งที..ไม่มีอะไรบอบช้ำ
ส่วนคนชั่วหลงตัวทำชั่วคิดกรรม
พูดชั่วทุกคำ..การกระทำ...ย้ำยี่ใจคน..
คนดี..ทำความดี...ย่อมง่าย..ดี
มักไม่มีอุปสรรค..มาขัดใจตน
ทำดี ย่อมอิ่มเอม..เปรมปรีดิ์..กมล
มีแต่สุขล้น..จากผลแห่งการทำดี..
ส่วนคนชั่ว..จิตเกลือกกลั้วกิเลสเศร้าหมอง
จะทำดีก็ขัดข้องมีแต่ปองทำชั่วอัปปรีย์
จะคิด จะทำ วจีกรรม ก่อไพรี
ก่อเวรผูกเวรทุกที่..คนชั่วนี้ไม่มีดีเลย...

<จักรัฐิเมธ>


วันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ชีวิตในบทละคร



เราไม่มีอยู่จริงในโลกมายา
ล้วนแต่ภาพลวงตาที่หลอกหลอน
ล้วนเสแสร้งแกล้งจริงสมละคร
พอจบตอนตัวละครต่างเลิกรา
ละครชีวิตจริงใครหนอคือผู้สร้าง
ทั้งพระนางผู้ร้ายตัวหรรษา
คือตัวเราใช่เขากำหนดมา
ทุกเวลากำกับเองเล่นสมจริง...
จะดีสมฝีมือผู้กำกับ...
หรือตกอับอาภัพคนรักทิ้ง
บทละครเขียนเองต้องอ้างอิง
ไม่ขำกลิ้ง..อย่าเล่นท้า..ฆ่าตัวตาย...

< จักรัฐิเมธ>

วันพุธที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

สายลมกาลเวลาอาจเปลี่ยนผันแปร...สายน้ำขุนเขายังมั่นคงเสมอ



สายน้ำหลั่งไหลไม่หวนคืนกลับมา
สายลมเวลาพัดผ่านวันวานผ่านไป
แต่ความทรงจำยังจำฝั่งลึกหัวใจ
ไม่คอยทอดทิ้งอาลัยสายใยที่เคยผูกพัน
ภาพเก่าภาพหลังยังคงเก็บตราตรึง
เฝ้าห่วงหารำพึงคะนึงอยู่ทุกคืนวัน
สายบัวสายใยสายน้ำเคยเชื่อมติดกัน
พอเวลาแปรผันขาดสะบั้นยังเหลือเหยื่อใย
แต่ความเป็นจริงชีวิตไม่ติดหยุดนิ่ง
สรรพสิ่งอ้างอิงชีวิตดังสายน้ำไหล
อย่ามัวแต่หลงภาพหลังที่จำฝั่งใจ
ตัดสวาทอาลัยสายใยให้ขาดสิ้นลง
เหลือเพียงเสรีภาพใหม่ในห้วงกมล
ไม่ยึดติดกังวลย้อนรอยอดีตมั่งคง
ดังขุนเขากลางไพรยิ่งใหญ่ทระนง
ยังสถิตยืนยงมั่นคงคู่กาลเวลา....

<จักรัฐิเมธ>


วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

หัวใจแชมป์..หัวใจทีม..หัวใจสามัคคี ยินดีกับสเปนแชมยูโร 2012



ทั้งกายใจมอบไว้..ให้แด่แชมป์
เฉลียวฉลาดแหลมคมสมทีมหนึ่ง
หัวใจทีมสามัคคี..คือ แรงกลึง
โลกตะลึงทึ่งตำนาน..ขานแชมป์โลก
สเปนเยี่ยมเต็มเปี่ยมเหลี่ยมแพรวพราว
ประกาศกร้าวคว้าชัยเหนือทีมโศก
เพราะหัวใจเป็นหนึ่งเดียวไม่เอี้ยวโยก
สะบัดโบกธงชัยหาใครเทียม..
สิบเอ็ดแรงแผงฤทธิ์พิชิตสู้
ประสานหมู่ทีมเวิร์คหัวใจเยี่ยม
สามัคคีรวมพลังกำลังเปี่ยม
เพราะตระเตรียมทีมดีจึงมีชัย..

<จักรัฐิเมธ>

ต้นไม้ปริศนา..


ต้นไม้ใหญ่แตกกิ่งใบแผ่กิ่งก้าน
ยืนตระหง่านให้ทานร่มเงาสัตว์
ทั้งน้อยใหญ่ได้อาศัยต่างเรือนวัด
คอยบำบัดโลกร้อนได้ผ่อนเย็น
ลำต้นหนึ่งคอยลำเลียงเลี้ยงอาหาร
รากดูดสารอินทรีใครเล่าเห็น
แค่รากเหง้ารากหญ้าน่าลำเค็ญ
ต้นไม้เป็นยืนได้ดีเพราะมีราก
ชนชั้นสูงมุ่งประณามหยามเหยียดย้ำ
ชนชั้นต่ำเพียงดินสิ้นทุกข์ยาก
ยอดไม้งามลำต้นใหญ่กิ่งใบมาก
ไม่เห็นรากเหมือนชนชั้นที่ต่ำทราม
เห็นฟ้างามว่าสูงเหนือกว่าดิน
หรือเพราะผินเหยียบดินแล้วมองข้าม
หากแต่ฟ้ามีดินไม่สิ้นงาม
ฟ้าสีครามยามเหยียบดินค่อยผินมอง
<จักรัฐิเมธ>