ค้นหาข้อมูลทั่วโลก

วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

กระท่อมน้อย กลางไพร สายฝนพรำ



....สายฝนพรำลำนำเพลงขับ
เสนาะไพเราะจับใจน่าฟัง
กระท่อมน้อยมีหลังคามุงบัง
เมื่อฝนหลั่งรดหยดลงคงเป็นเพลง
....ดนตรีขับกล่อมไพรสนฑ์
เสียงสายฝนพรำขับบรรเลง
กระท่อมน้อยช่างดูวังเวง
แต่สายฝนไม่เกรงหลั่งริน
....เชิญเถอะ..ถ้าฝนปรารถนา
จงตกลงมาให้หมดสิ้น
กระท่อมน้อย..ไม่รวยริน
บนแผ่นดินกลางไพร..สายฝนพรำ
...จักรัฐิเมธ..

คาถา..หมดสตังค์ตั้งสติ

สตังค์หมดสติหดดูหมดท่า
สตังค์มาสติหลงดงแสงสี
เสียสติยุ่งตัณหาบ้าโลกีย์
สตังค์มีกลับหมดสลดใจ
หมดสตังค์ตั้งสติค่อยริเริ่ม
การงานเสริมสุจริตคิดตั้งใหม่
เลิกอบายมุขทุกอย่างให้ห่างไกล
ขยันไว้สตังค์หายจะได้มี
สติตั้งสตังค์ไว้ในคาถา
หัวใจข้า อุ อา กะ สะ เศรษฐี
หมั่น รักษา เสวนาแต่คนดี
ใช้ชีวีพอเพียงเลี้ยงครอบครัว
สตังค์มา สติมี ทุกที่พร้อม
สติน้อม ตั้งมั่น ไว้เหนือหัว
ใจ แน่วแน่แต่ความดีไม่หวั่นกลัว
ละเว้นชั่ว ไม่มัวหมอง ผ่องใสเอย
....จากใจ..จักรัฐิเมธ...

วันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ฝากไว้ให้รำพึง


....ฝากไว้ให้รำพึง
เมื่อยังไม่ถึงซึ่งฝั่งฝัน
ลองมาฟังบทกวีที่รำพัน
ก่อนยืนยันก้าวต่อไป..ไม่รีรอ
....บทเส้นทางยาวไกล...ใครลิขิต
ให้ชีวิตก้าวเดินไม่ย่นย่อ
อุปสรรคขวากหนาม..ตำให้ท้อ
จะก้าวต่อหรือพอที..ว่าขี้แพ้
....อยู่ที่ใจ...ไม่มีใครเขาลิขิต
ไม่มีที่ฝากชีวิต..คนอ่อนแอ
มีแต่เศร้า เหงาผิดหวังที่ย่ำแย่
ยิ่งท้อแท้ ...มีแต่จะปราชัย
....หากเหนื่อยนัก...ก็ให้พักเอาแรงก่อน
ตะวันร้อนแสงแดดเผา..อาจหมองไหม้
หายเหนื่อยแล้ว..ค่อยก้าวเดินต่อไป
ยังอีกไกล..กว่าจะถึงซึ่งฝั่งฝัน
จากใจ..จักรัฐิเมธ

ชีวิตบนโรงศพ












.......มีกายาชีวีที่สุขสม
ในโลกแสนโสมมภิรมย์หลง
เสพกินซากสัตว์พืชหวังอยู่ยง
กลับทะนงตนว่ายิ่งใหญ่..เหนือใครเทียม
......ต้องคอยทิ้งขยะเน่าของเก่าร่าง
กายากร่างยโสโก้เต็มเปี่ยม
แค่ศพเป็นเดินได้ใครว่าเยี่ยม
กลับไม่เจียมตัวแท้..แน่จริงคน
....ฝากไว้ให้คิด..จักรัฐิเมธ

แค่ปุยฝ้าย


......เป็นดังปุยฝ้ายยามพ่ายสายลม
พัดระทวยระทมซมซานไป
ล่องลอยระริวปลิวว่อนอ่อนไหว
ระหกระเหไกล ไม่รู้จุดหมาย
......หมดแรงลมยิ่งขื่นขมระทมร่วง
เหมือนลมลวงหลอกทิ้งยิ่งแพ้พ่าย
หล่นจูบดินสิ้นค่าแค่ปุยฝ้าย
รอสลายไม่นานวันอันตรธาน
......เมื่อหมดค่าคงหมดสิ้น..ซึ่งความหมาย
ไม่อาจหลงเสียดายให้สงสาร
เช่นปุยฝ้ายสิ้นสลายค่าควรกาล
อวสานลงเอยสังเวยดิน
....จักรัฐิเมธ...

วันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ลำนำ..ชีวิตนี้ยังมีหวัง

ถึงคืนวันจะโศกทะเลจะคร่ำครวญ
ชีวิตยังรัญจวนโหยหาแต่ความหวัง
จะสุขหรือทุกข์เปลี่ยนแปร..ไม่จีรัง
ขอเพียงพลังกำลังใจ..ไม่ย่อท้อ
ถึงคืนจะเศร้าเหน็บหนาว..สักเพียงใด
ขาดคนเอาใจยิ้มได้ไม่เคยง้อ
ไออุ่นไอรักหวังใจได้เคลียคลอ
จากคนเฝ้ารอพอใจจะจริงจัง
ผ่านคือและวันสายลมที่เปลี่ยนแปร
กำลังใจแน่วแน่ยังหยัดยืนจีรัง
ถึงแม้คนรัก..จะหันมาเกลียดชัง
ก็ยังเฝ้าหวังคนเกลียดชังจะเข้าใจ
สายน้ำหลั่งไหล..ไม่มีวันกลับคืน
ทะเลสะอื้นซัดคลื่น..อยู่หวั่นไหว
ความรัก..ความฝันไม่มีวันเปลี่ยนไป
เฝ้าหวังวันใหม่ด้วยใจที่เกินร้อย
คงมีสักวันความฝันจะเป็นจริง
ดังใจที่อ้างอิง..ทุกสิ่งรอคอย
สำเร็จสมใจ..เส้นชัยไม่เลื่อนลอย
มีคนรอเกี้ยวก้อยร้อยใจเป็นหนึ่งเดียว..
....จักรัฐิเมธ....

โลกสันติ




















โลกสงบพบสันติ ณ แดนใจ
เหนือแดนใดแผ่ไปทุกแห่งหน
มีเมตตาธรรมค้ำจุนหนุนบันดล
โลกสกลยลสงบพบร่มเย็น
โลกสงัดสลัดคราบตราบาปชั่ว
ไม่หลุ่มหลงเมามัวอำนาจเซ่น
ไม่ยึดมั่น ถือมั่น ว่าตัวเป็น
จะพบเห็นโลกสันติ.. ที่ยั่งยืน
ฝากไว้ให้คิด..จักรัฐิเมธ

วันอาทิตย์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

อภัยให้ใจของเธอ..(กวี)

"โปรดอภัยให้ใจของเธอ"
คนเหงา..คืนเหงาไร้ดาวเคียงข้าง
ใครหนออ้างว้างหัวใจเปลี่ยวเหงา
คืนเหน็บคืนหนาว ..สายลมพัดพรมเบา ๆ
ใครหนอซึมเศร้า..เคล้าคลอน้ำตา
โปรดหันมาทางนี้..ยังมีกำลังใจ
จากใจสู่ใจ มอบให้ในยามเหว่ว้า
ขอเพียงหัวใจห่วงใยชีวิตมีค่า
จะช่วยซับน้ำตา..เวลาที่มันร่วงริน
ขอได้โปรดอภัยให้ใจของเธอ
บางครั้งพลั้งเพลอแปดเปื้อนเป็นรอยมลทิน
ผ่านแล้วผ่านไปเริ่มใหม่คงไม่ราคิน
ให้มันไหลริน..สิ้นไปกับสายน้ำตา
....จักรัฐิเมธ...

วันศุกร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

สันติ..กวี

.....น้ำอภัยใส่น้ำใจใช้น้ำคำ
ลดน้ำช้ำซับน้ำตาคร่าชีวี
เลิกอาฆาตมาดร้ายหมายย้ำยี่
เลิกราวีเข่นฆ่าประชาไทย
.....จะหวังชัยหรือพ่ายแพ้แค่ความโกรธ
สร้างพิโรธโทษกันไปถึงไหน
สุดท้ายจบชีวิตได้อะไร
ต่างบรรลัย..ที่ยิ่งใหญ่ใช่ค้ำฟ้า
ฝากไว้ให้คิด...จักรัฐิเมธ

น้ำค้าง..หิ่งห้อย..ทอแสง (แด่ทุกกำลังใจ)

หยาดน้ำค้าง พร่างมา น้ำตาริน
จากริ่วรอยมลทิน ..หัวใจของคนสิ้นหวัง
น้ำค้างกลางแดด ถูกแผดเผาให้พ่ายพัง
แต่น้ำตายังหลั่งไหลคั่งอยู่ในหัวใจ
รอแสง..ตะวัน เริ่มฝันเมื่อวันเริ่มใหม่
ลบน้ำค้างใจ..ที่หลั่งรินให้มันหยุดไหล
ชะล้างมลทิน..สนิมเกาะกินหัวใจ
ซับน้ำตาไว้..ด้วยกำลังใจที่มี
เช่นดัง หิ่งห้อยตัวน้อยที่ทอแสงฝัน
มีสายสัมพันธ์กำลังใจ..ที่ไหลล้นปรี่
เพียงไม่อ่อนแอ..ไม่ท้อแท้..นะคนดี
ขอเพียงเธอมี...กำลังใจที่ไหลเวียนวน
เห็นตะวัน..ที่เคยลาลับฟ้า
ยังกลับมาทอแสงอีกหน
ชีวิตนี้..ของเธอ..ไม่มืดมน
หากใจตน..ยังทอแสง..แข่งตะวัน
จากใจ...จักรัฐิเมธ

วันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ได้แต่มอง..เฝ้าดาว


"ได้แต่มอง..จ้องดูดาว" (กวี..แต่งเล่นๆ)
ดวงดาว..ระยับไกล...บนขอบฟ้าไกล
ดูลาง ลาง ไร ไร เกินใจ ..เอื้อมถึง
เหมือนดาวห่างไกล ...เกินใจคะนึง
หวังเพียงดาวดวงหนึ่ง...ที่ขอบฟ้าไกล
เอื้อมมือ..เด็ดดาวน้าวมา..เชยชม
ยิ่งเอื้อม..ยิ่งตรม..ท้อใจรู้ไหม
ดาวน้อยเจ้าลอย..หนีห่างจากไป
ยิ่งเอื้อม..ยิ่งไกล..หัวใจ..โรยแรง
ขอเพียงดาวดวงหนึ่ง..ที่ฉันเฝ้ามอง
หวังใจครอบครอง..เคียงคู่ทอแสง
เคียงใจคู่ฝัน..ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
ใยดาวกลับแกล้ง..เหมือนไม่เห็นใจ
ได้โปรดเถอะดาว...อย่าร้าวต่อฉัน
มาเคียงคู่ฝัน..ฉันให้สดใส
ดาวเจ้าระยับ..บนขอบฟ้าไกล
ฉันนี้ฝันใฝ่...จริงใจนะดาว....
จากใจ..จักรัฐิเมธ

วันอาทิตย์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

อย่าทิ้ง..รังฝัน

















อย่าทิ้ง..รังฝัน (บทกวี)
เจ้านกน้อยเอย บินจากไปไกล
เจ้าไปแห่งไหน ทำไม่จึงไม่กลับรัง
หวนคืนสู่ถิ่น กลับมาเหมือนเดิมอีกครั้ง
ร่วมสร้างรังฝัน..เหมือนวันที่เคยคู่เคียง
รังฝัน..ที่สร้าง คงร้างอ้างว้างเงียบเหงา
ไร้แม้เงาของเจ้าที่เคยส่งเสียง
เจ้าคงหดหู่ เมื่อรู้ไม่มีคู่เคียง
ทิ้งไว้แต่เพียง..รังร้าง..บินห่างจากไป
เหมือนรังใชฝันร้าง..โดนทิ้งเพราะว่าคนท้อ
น้ำตาคลอ..เพราะศรรักหักเสียบคาใจ
หนาวรวดร้าว..เจ็บปวดเมื่อรักจากไกล
จะช้ำเพียงใด..เมื่อใจเอาแต่ท้อตรม
อย่าทิ้งรัง..ฝันรังสรรค์ที่เธอสรรสร้าง
ปล่อยให้อ้างว้างเดี่ยวดาย..สุดจะขื่นขม
ขอเพียงเริ่มใหม่สานฝันที่เคยระทม
หัวใจเคยล่มท้อตรมไม่ล่มสลาย..
จากใจ..จักรัฐิเมธ

อย่าท้อ "หัวใจและหยาดน้ำตาที่เธอมี"

"อย่าท้อ..หัวใจและหยาดน้ำตาที่เธอมี"
หัวใจ และหยาดน้ำตา..ที่เธอมี
ธรณีชีวิตนี้..ไม่สิ้นหวัง
ถึงหยาดฟ้ามาดิน..สิ้นโรยดัง
หมดความหวัง..กำลังใจใช่รานรอน
นับวัน.. นับปี..นับเดือน ที่เลื่อนผ่าน
สายธาร สายลม ตรมอาวร
ทิวากร..จรจากไปใช่ลาก่อน
เพียงอ้อนวอน..ให้อยู่สู้ต่อไป....
กำลังใจเป็นสำคัญ...นั่นมีอยู่
ลงขึ้นสู้อีกใหม่..ไม่เป็นไร
อดทน..อีกสักหน่อย..ขอได้ไหม
ยิ้มเข้าไว้..นะคนดี..จะมีชัย
ล้มแล้วลุก..แม้คลุกคล้าน..อาจหาญหน่อย
อีกเล็กน้อย..ต้องไม่แพ้..อย้าท้อใจ
ยังมีหวัง...ยังมีทาง..ยังอีกไกล
สู้เข้าไว้...อย่าอ่อนแอ..แพ้ไม่เป็น
ความสำเร็จ..ความสมหวังจะตามมา
เป็นรางวัล..แด่ผู้กล้าจะได้เห็น..
ถึงตอนนั้น..แม้น้ำตา..พารำเค็ญ
จะไม่เหลือ..ให้กระเซ็น..เห็นอีกเลย..
จากใจ..จักรัฐิเมธ

ปรัชญากวี

"คนที่ทำให้เสียใจมากที่สุด..ที่แท้ไม่ใช่ใคร คือตัวเราเอง"
ถ้าหากไม่มีเขา...
คงไม่มีเราในวันนี้
เขาคือความภูมิใจที่เรามี
เขาคือสิ่งที่เราต้องการ
เขาคือความหวังทั้งมวล
เขาคือจุดชนวนพลังมหาศาล
เขาคือชีวิต..คือลมปราณ
เขาคือสายธารกำลังใจ
เพราะเขาเราจึงสุข
เพราะเขาเราจึงทุกข์..แค่ไหน
เพราะเขาเราจึงกล้ำกลื่น..ร่ำให้
เพราะเขา เราถึงตัดใจไม่ลง..สักที
โดย..จักรัฐิเมธ