ค้นหาข้อมูลทั่วโลก

วันศุกร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2555

ทำไม่..ถึงต่างกัน


คืนกับวันต่างกันที่เวลา
ดินกับฟ้าต่างกันที่อยู่ห่าง
ตะวันกับจันทร์ต่างกันที่โคจรทาง
หยินกับหยางต่างกันที่พลัง
ถึงจะต่างห่างกันสักแค่ไหน
กาลหมุนไปเปลี่ยนคืนวันไม่หยุดยั้ง
แต่มีช่วงบรรจบพบสักครั้ง
เพื่อเหนี่ยวรั้ง..พบพรากแล้วจากกัน..
<จักรัฐิเมธ>


ปาก..เสีย

ลมพิษร้ายที่ว่าแรงยังพอแก้
แต่ยอมแพ้ลมพิษปากยากรักษา
หอกแหลมคมทิ่มเป็นแผลแก้ด้วยยา
หอกวาจาทิ่มแทงใจให้ทุกข์ทน..
ปรุงอาหารด้วยเครื่องปรุงให้อร่อย
ใส่เครื่องปรุงเป็นร้อยรสเข้มข้น
จะเซิร์ฟทีวจีเผ็ดเข็ดคำคน
แม่ครัวโยนให้กินสิ้นรสชาติ
<จักรัฐิเมธ>


ความรู้ ไม่สู้จินตนาการ


จินตนาการมีค่าเหนือความรู้
ไหลพรั่งพรูสร้างความคิดโลกเสมือน
เป็นภาพศิลป์จินตนาการไม่เลอะเลือน
ความรู้เกลื่อนไม่เหลือเชื่อเหนือจินตนาการ
จะเรียนรู้แค่ครูสอนวอนท่องบ่น
จำไปค้นคว้าหาตำราสาร
ไม่คิดค้นวิเคราะห์คงป่วยการ
ยิ่งเรียนนานยิ่งโง่เขลาเปล่าท่องจำ..

<จักรัฐิเมธ>

วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2555

ไฟภายใน..สู่ยุคมิคสัญญี


ไฟสงครามเริ่มก่อเชื้อที่ความคิด
วิปริตผิดวิสัยใจหยาบช้า
ไม่รับรู้เหตุผลพ้นเมตตา
มุ่งเข่นฆ่าเผาผลาญหารชีวิน
ไฟประทุเผาจิตติดเปลวเพลิง
หลงละเลิงสวยงามตามถวิล
โลภโกรธหลงดึงดิ่งจมมลทิน
ปฐพินอาบเลือดนองร้องคร่ำครวญ
สืบทายาทอสูรร้ายอุดมการณ์
มุ่งประหารดื่มเลือดเชือดโหยหวน
ยุคไร้ศีลกลิ่นคาวเลือดน่ารัญจวน
อสูรล้วนอำมหิตจิตต่ำทราม
ไม่รู้คุณรู้โทษโกรธเกรียวกราด
บ้าอำนาจเหนือเหตุผลไม่สนห้าม
ใครขัดขวางฆ่าทิ้งยิงประณาม
มาตุคามถูกเหยียดหยามไร้ปรานี
ภัยน่ากลัวที่แท้เกิดแต่จิต
วิปริตจากธรรมชินศรี
หากไม่ห้ามยับยั้งอเวจี
มิคสัญญียุคเถื่อนเกลื่อนทั่วโลก...
<จักรัฐิเมธ>


วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2555

ขอแค่ใจอึดฮึดสู้


เหนื่อยแค่ไหนขอแค่ใจได้พักผ่อน
ที่เร้าร้อนแค่ไหนขอแค่ใจได้อาบน้ำ
ถึงเหน็บหนาวแค่ไหนขอแค่ใจไม่หนาวตาม
ทุกข์หนักห้ามแค่ไหนขอแค่ใจรู้ปล่อยวาง
ถึงเศร้าโศกแค่ไหนขอแค่ใจไม่ร้องห่ม
รักระทมแค่ไหนขอแค่ใจไม่อ้างว้าง
ถึงจะเจ็บสักแค่ไหนขอแค่ใจไม่ครวญคราง
ถึงจะแพ้หกล้มบ้างขอแค่ใจอึดฮึดสู้.....
<จักรัฐิเมธ>


วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555

นิ่งสงบ..เพื่อสยบมาร



จงสยบความกลัวด้วยความกล้า
จงสยบความบ้าด้วยสติมั่น
จงสยบคนรักด้วยผูกพัน
เกื้อหนุนกันแบ่งปันใจให้เวลา
จงสยบความชั่วด้วยความดี
จงสยบไพรีด้วยอหิงสา
จงสยบความโกรธด้วยเมตตา
จงสยบอวิชชาด้วยปัญญาญาณ.
จงสงบสยบมารด้วยความนิ่ง
สรรพสิ่งหยุดไวติงในสงสาร
จงสยบจองเวรด้วยอภัยทาน
จงสยบอหังการด้วยปล่อยวาง
<จักรัฐิเมธ>


ลิขิตชีวิต..ดัง Steve Jobs



จงหิวและกระหายในความรู้
จงเพ่งดูถูกตัวเองว่าโง่เขลา
จงยอมรับทุกศาสตร์เช่นตัวเรา
จงสร้างเสาอนุสาวรีย์ให้ตัวเอง
จงมองโลกครบมิติก่อนลิขิต
จงมองชีวิตเป็นมิตรไม่ข่มเหง
จงมองธรรมชาติเป็นครูน่ายำเกรง
จงมองเพลงคีตศิลป์ด้วยจินตนาการ
จงเลือกทางลำบากยากไว้ก่อน
จงสังวรระวังในสังขาร
จงกตัญญูรู้คุณครูอาจารย์
จงกล้าหาญยามต้องการวีรชน..
<จักรัฐิเมธ>

วันอาทิตย์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2555

หนาวจังเลย..


อบอุ่นกายแค่ไหน..ใจยังหนาว
ร้อนอบอ้าวแค่ไหน..ใจยังหวิว
หนาวแค่กายภายนอกแค่พื้นผิว
หนาวสยิวผิวหัวใจ..ใครจะทน..
หนาวสุดขั้วหัวใจ....ลบล้านองศา
หนาวไม่ธรรมดา...จนสับสน
หัวใจแข็งด้านชา...เต้นวกวน
หนาวพิกล...เหน็บหนาวนาน..พิการใจ..
หนาวสนิมเกาะกินใจยิ่งเหน็บหนาว
หนาวปวดร้าวรักหักราญร่ำร้องให้
หนาวกี่หนาวที่ผ่านมาและผ่านไป
หนาวแค่ไหน....ยังไม่มีผ้ากันหนาว
หนาวไม่พอ...พายุหนาวลมหิมะ
ไม่ลดละ..ยิ่งรุนแรงจนซีดขาว
สั่นสะท้าน..ใจสะเทือนหนาวยืดยาว
ยิ่งหน่วงหนาวร้าวระทมข่มขืนใจ
หนาวฤดูยังมีเปลี่ยนเวียนผันผ่าน
หนาวตามกาลไม่นานเนิ่นฤดูใหม่
หนาวใจนี้ไม่มีเปลี่ยนฤดูใด
ยังคงไว้ฤดูหนาวเฝ้ารุกราน
จะดับหนาวให้สนิท..ปิดฤดู
ยังไม่รู้....วิธีที่อาจหาญ
จะต่อกรหนาวนี้…ชนะมาร
อภัยทาน..พออุ่นใจ..ให้คลายหนาว..
<จักรัฐิเมธ>


ความจริงจากฟ้า..หน้าฝน

หยดน้ำไหลริน..จากถิ่นแดนฟ้า
แปดเปื้อนพสุธา..ดังน้ำตาวาริน
ฟังเสียงสะอื้น..ค่ำคืนแว่วผ่านได้ยิน
จากหัวใจแปดเปื้อนมลทิน..หลั่งสายวารินน้ำตา...
ฟ้าร้องคร่ำครวญ..เหมือนจวนจะอำลา
หนึ่งหัวใจโศกเศร้าโศกา...ดังสายฟ้าฟาดแทบขาดใจ
โอ้อกฟ้า....   ....บอกพสุธาแทบแตกบรรลัย
ใครหนอช่างใจร้าย.ทำได้ ...ขอได้ไหมได้โปรดปรานี
แต่ความจริงหัวใจฟ้า    ยอมสละน้ำตาวารี
เพื่อหล่อเลี้ยงชุบชีวี     มอบไมตรีเมตตาการุณ
หยดน้ำตาสุดท้ายแทนใจ  ยอมสละอาลัยไม่ให้ช้ำในเคืองขุ่น
ดังน้ำตาฟ้าเพื่อพสุธาแทนคุณ  ต่างเกื้อหนุนสร้างฟ้าใหม่ในยามฝนพรำ..

<จักรัฐิเมธ>


นักไม่มีขน คนไม่มีความรู้ ขึ้นสู่ที่สูงไม่ได้



 (นกไม่มีขน คนไม่มีความรู้..ขึ้นสู่ที่สูงไม่ได้)
..นกน้อยไม่หัดบิน..จะบินได้อย่างไร
ขยับปีกไม่ไหว......เมื่อใจขี้เกียจบิน
ต้องทนอยู่กับรัง  .... เอาแต่นั่งร้องขอกิน
คอยแต่แม่เลี้ยงชีวิน......คงจบสิ้นซึ่งเผ่าพันธุ์
..เด็กเอยเด็กน้อย    เจ้ายังด้อย..เร่งขยัน
ควรศึกษากวดขัน.....ให้มั่นทำแต่ความดี
ใช่แต่เอาแต่กินนอน...ชอบวิงวอนปรานี
เกียจคร้านทำหน้าที่ ..พ่อแม่มีก็ทุกข์ใจ
..เป็นนกที่มีปีก.. ...รู้หลบหลีกเภทภัย
รู้โลกกว้างเป็นเช่นไร   เพราะหัวใจรักการบิน
เป็นคนอย่าเกียจคร้าน  มั่นทำงานหากิน..
ปีกความรู้ไม่สิ้น   ....หากถวิลใฝ่ศึกษา.....  
<จักรัฐิเมธ>